วันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2554

เด็ก 17 ชาวฟิลิปปินส์ กำลังจะกลายเป็นชายที่ตัวเล็กที่สุดในโลก


เด็ก 17 ชาวฟิลิปปินส์ กำลังจะกลายเป็นชายที่ตัวเล็กที่สุดในโลก
 เด็กชายจันเรน์ บาลอว์วิง ชาวฟิลิปปินส์วัย 17 ปี กำลังจะกลายเป็นชายที่มีตัวเล็กที่สุดในโลก ด้วยความสูงเพียงแค่ 22 นิ้ว การหยุดการเจริญเติบโตของ จันเรน์ ทำให้เขายังคงมีรูปร่างคล้ายเด็กทั่วไป แต่ไม่สามารถยืนได้เป็นเวลานาน
เมื่อเขาอายุ 18 ปีบริบูรณ์ ในเดือนมิถุนายนที่จะถึงนี้ ก็จะกลายเป็ยชายที่ตัวเล็กที่สุด เอาชนะชายเนปาลเจ้าของสถิติ  แต่เมื่อมีผู้พูดถึงเขาว่าเป็นชายที่ตัวเล้กที่สุดในโลก  จันเรน์  ก็ยิ้มด้วยความภาคภูมิใจ พร้อมกับบอกว่า ถ้าเขาได้บันทึกชื่อเป็นชายที่ตัวเล็กที่สุดในโลก มันเป็นอะไรที่วิเศษมาก

ปัจจุบัน จันเรน์ พักอาศัยอยู่กับครอบครัว ในชุมชนชนบท จังหวัด แซมบองกา เดล นอร์ท ส่วนน้องสาวและน้องชายมีร่างกายเป็นปกติ ซึ่งเวลาไปไหนมาไหนพ่อแม่ก็จะต้องอุ้มเขาอยู่ตลอดเวลา
ก่อนหน้านี้ จันเรน์ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลเพราะว่ามีการอาการป่วยเรื่อรัง  และแพทย์ก็ไมาสามารถวินิจฉัยได้ว่าการหยุดการเจริญเติบโตของเขาเป็นเพราะสาเหตุใด

ถึงแม้ว่าร่างกายจะหยุดการเจริญเติบโตเพียงเท่านี้ แต่จันเรน์ก็สนใจเรียนรู้ในด้านการวาดภาพ ซึ่งรายได้ก็พอจุนเจือครอบครัวได้บ้างเล็กน้อย

10 ข้อ เรื่องจริง รถตู้ไทย !!

รถตู้โดยสารเป็นยานพาหนะที่เป็นที่นิยมในบ้านเรามาสักระยะหนึ่ง ซึ่งทำให้ชีวิตของคนเมืองนั้นสะดวกสบายขึ้นมาก แต่บางสิ่งบางอย่างที่เราไม่อาจปฏิเสธได้เวลาเราใช้บริการรถตู้... ก็มีอยู่เช่นเดียวกัน และเรื่องที่จะยกตัวอย่างต่อไปนี้เป็นเพียงประสบการณ์ส่วนตัวและการบอกเล่าจากผู้คนรอบข้างเท่านั้น รถตู้ดีๆ ที่มีมารยาทก็มีเยอะนะ อย่าเหมารวมล่ะ...

10 ข้อ เรื่องจริง รถตู้ไทย !! รูปที่ 1

1. เป็นไปได้ว่าพี่คนขับรถตู้ (บางคน) อาจจะเคยผ่านการฝึกขับรถ F1 มาก่อน เพราะทักษะการเหยียบคันเร่งแบบไม่ต้องถอนนั้นยอดเยี่ยม!! แถมตอนเปลี่ยนเลนบางทีก็ไม่ต้องอาศัยการเปิดไฟเลี้ยว รวมทั้งเทคนิคการแทรกช่องว่างระหว่างคันรถเพียงเล็กน้อย คุณพี่เค้าก็ยังสามารถทำได้เพียงเสี้ยววินาที หรือบางทีก็เปลี่ยนจากเลนขวาสุดมาเลนซ้ายสุดแบบ Professional ยากหาใครเสมอเหมือน เรียกได้ว่าทักษะการขับรถตู้ของรถตู้ (บางคัน) สามารถเรียกอ้วกของผู้โดยสารได้ไม่ยากเลยจริงๆ

2. แต่ถ้าขึ้นรถตู้แล้วไม่เจอคุณพี่คนขับที่เป็นนักแข่งรถมาก่อน ก็อาจจะได้พบกับขั้วตรงข้ามที่อาจจะเป็นแฝดคนละฝาเลยก็ว่าได้ เพราะพี่คนขับประเภทนี้จะขยันเบรกกันทุกๆ 100 เมตรเห็นจะได้ ซึ่งไม่ว่ารถคันหน้าจะอยู่ห่างซักแค่ไหน คุณพี่ก็จะตั้งหน้าตั้งตาเบรก ช่วงเวลาไพรม์ไทม์อย่างช่วงเช้าหรือเย็นๆ แบบรถติดๆ เราก็พอจเข้าใจ แต่ช่วงที่รถแล่นฉิวๆ เนี่ย จะเบรกทำไมบ่อยๆ ไม่เข้าใจว้อยยย... (การขับแบบนี้ก็ไม่พ้นเตรียมถุงอ้วกไว้เหมือนกัน)

3. ถึงแม้ว่าคุณจะพบกับคนขับที่แสนดีและมีมารยาท แต่สารพัด "กลิ่น" บนรถตู้อาจเป็นชนวนเหตุที่ทำให้คุณอาเจียนได้เหมือนกัน ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นน้ำหอมปรับอากาศที่กลิ่นไม่เหมือนกันซักคัน หรือกลิ่นอับของบรรดาเบาะที่นั่ง ไม่เว้นแม้แต่กลิ่นเหงื่อ ของบรรดาหนุ่มๆ นักกีฬาที่นัดมาออกกำลังกายยามเย็นแล้วกลับบ้านพร้อมกันก็เหลือจะทน... ขอบอกคำเดียวว่า "ไม่ไหว!"

4. นอกจากจะมีกลิ่นต่างๆ ที่สามารถรบกวนสัมผัสทางรูจมูกของคุณได้เป็นอย่างดีแล้ว มลพิษทางเสียงนับเป็นอีกสิ่งที่คุณสามารถพบเจอได้เป็นประจำในรถตู้โยสาร ไม่ว่าจะเป็นเสียงพิณบีบีที่ดังทุกๆ 2.75 วินาที, เสียงออดอ้อนเอาใจแฟนหนุ่มด้วยภาษาแอ๊บแบ๊วอย่าง คริคริ ตะเอง จุ๊บุ๊ๆ อะไรก็ว่ากันไป, เสียงเด็กที่ร้องโยเย (อาจจะมาจากเด็กเมารถ ฮ่า ฮ่า) แต่ที่น่ากลัวที่สุดคงจะเป็นเสียงคุยโทรศัพท์จากพี่คนขับรถ เพราะพี่เล่นซิ่งไปคุยไปแบบนี้ก็เสียวสันหลังแย่สิคร้าบบบ!

5. ผู้โดยสารที่ขึ้นรถตู้คงจะหวังว่าจะได้ขึ้นไปสัมผัสกับแอร์เย็นๆ และไม่ต้องทนร้อนกับการนั่งรถเมล์ในยามแดดเปรี้ยง... คุณคิดผิดซะแล้วล่ะ เพราะรถตู้โยสารบางคันไม่ว่าคุณจะดันระดับความเย็นไปจนสุดแล้ว สิ่งที่คุณได้รับกลับมีเพียงลมอันแผ่วเบาที่จะทำให้คุณร้อนและอึดอัดกว่าเดิม เพราะอย่าลืมว่าคุณไม่สามารถเปิดกระจกในแบบที่คุณทำได้เวลาคุณขึ้นรถเมล์ อ้อ! และหากว่าคุณไม่พบกับรถตู้แอร์ร้อนแล้วละก็ คุณก็อาจจะได้พบกับรถตู้ที่แอร์เย็นเฉียบเสมือนว่าอยู่ขั้วโลกเหนือกันเลยทีเดียว



10 ข้อ เรื่องจริง รถตู้ไทย !! รูปที่ 2


6. สืบเนื่องมาจากความสามารถพิเศษในการขับรถตู้เยี่ยง F1 ของพี่คนขับรถ ไม่ว่าจะปาดขวา เบี่ยงซ้าย คุณพี่ก็ทำได้ในระยะประชิดด้วยเวลาที่อาจจะเหนือกว่าไมเคิล ชูมัคเกอร์เสียด้วยซ้ำ อาการของการอยากจะจอดรับ-ส่งผู้โดยสารตรงไหนก็ได้จึงบังเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะตอนนั้นคุณพี่อาจจะอยู่เลนที่ 3 แล้วมีผู้โดยสารต้องการลงป้าย คุณพี่ก็จัดเต็มด้วยการปาดทีเดียว 3 เลยซะอย่างนั้น หรือไม่บางทีคุณพี่ขี้เกียจเข้าไปส่งในเลนซ้าย เพราะมันจะทำให้เสียเวลา คุณพี่ก็จะเปิดไฟกระพริบและจอดมันซะตรงเลน 2 นั่นแหละ นี่ยังดีนะว่าไฟเยรกมันติด ไม่งั้นเราคงไม่รู้ว่าคุณพี่จะจอดรถ

7. และก็คงเป็นการยืนยันคำกล่าวที่ว่า "คนไทยอ่านหนังสือปีละ 6 บรรทัด" นั้นเป็นความจริงได้เป็นอย่างดี เพราะแค่ป้ายสีแดงเล็กๆ ที่เขียนอยู่บนรถตู้ทุกคันว่า "โปรดอย่านั่งขวางประตู" แทบจะไม่มีใครอ่าน ขึ้นมาบนรถก็เอาก้นจมปลักอยู่บนเบาะแถว 2 ที่ขวางทางขึ้น-ลงอยู่นั่นแหละ ถึงแม้ว่าจะมีที่นั่งอีกมากมายอยู่ทางด้านหลัง แต่ก็ยังมีคนยืนยันว่าขอนั่งตรงนี้ แม้จะขวางทางคนอื่นเค้าอยู่ก็เถอะ

8. ในบางวันเราอาจจะคิดว่าเราโชคดีที่ได้นั่งเบาะด้านหน้าคู่คนขับ แต่อย่าเพิ่งชะล่าใจไป เพราะรถตู้โดยสารบ้านเรามักมีออปชั่นพิเศษอยู่เสมอ เพราะพี่คนขับรถบางคันมักจะนำหญิงสาวที่เราไม่อาจรู้ได้ว่าเป็นใคร แม่หรือเปล่า เอ๊ะ..หรือว่าเป็นเมีย มานั่งข้างๆ ซะงั้น และเธอคนนั้นมีหน้าที่หันหลังมาเก็บเงินในทุกๆ ป้ายเวลาที่มีคนลง และช่วงเวลาที่เธอหันไปหันมานี่แหละ... ทำไมถึงรู้สึกอึดอัดมากขนาดนี้ก็ไม่รู้

9. คุณจะรู้สึกยังไงถ้าทุกๆ วันที่คุณนั่งรถตู้จากบ้านไปยังออฟฟิศ คุณเสีย 15 บาท แต่อยู่มาวันหนึ่งกลับต้องเสีย 20 บาท ทั้งๆ ที่นั่งรถตู้บริษัทเดียวกัน ระยะทางเท่ากัน เวลาในการขึ้นใกล้เคียงกัน และเหตุการณ์นี้มักเกิดขึ้นบ่อยๆ เสียด้วย ไม่ยักรู้ว่าเดี๋ยวนี้รถตู้ก็มี 2 มาตรฐานเหมือนกัน

10. และสุดท้ายบางทีคุณอาจจะรู้สึกแย่เวลาที่ต้องการขึ้นรถตู้โดยสาร เพราะคนที่นั่งข้างคุณเป็นผู้ชายหน้าเถื่อนๆ อาจสัปหงกและก้มลงมาซบไหล่คุณโดยที่เค้าไม่รู้ตัว ซึ่งเค้าอาจจะฝากของเหลวที่ไหลออกมาจากปากไว้กับเสื้อของคุณเมื่อไหร่ก็ได้ แต่หากมองในมุมกลับ คุณอาจจะเจอแจ็คพ็อต โดยมีสาวน่ารักน่าหยิกกำลังง่วงอยู่ข้างๆ กายคุณ และเผลอซบคุณตลอดทางก็เป็นได้ ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ คุณก็คงไม่อยากลุกลงจากรถแม้ว่าถึงบ้านคุณแล้วก็ตาม

วันพุธที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2554

จัดเต็ม..ฮาศาสตร์ หนังตัวอย่าง + โปสเตอร์





มาแล้วจ้า หนังตัวอย่างแรกของ ฮาศาสตร์ จากค่า่ยไฟว์สตาร์ ที่รวมดาวตลกไว้เยอะมาก เข้าฉาย 6 เมษา นี้ เค้าว่า ไม่ฮาให้เตะเลยนะ

ฮาศาสตร์คือมหา’ลัยที่ผลิตตลกชั้นแนวหน้าของเมืองไทย ที่ก่อตั้งขึ้นมาลับ ๆ อย่างยาวนาน ตลกทุกรุ่นต่างก็เคยเรียน ฝึกฝนความฮากันมาจากสถาบันนี้ทั้งนั้น

จนกระทั่งเมื่อตลกเริ่มดวงตก ตกอับ คาเฟ่ปิด

โลกมันเพี้ยน! นักเตะโดนใบแดงเพราะไล่จับชีเปลือย



เรื่องบ้าๆ เกิดขึ้นในสนามฟุตบอลเสมอ แอชลีย์ วิคเคอร์ วัย 38 ปี นักเตะทีมดอร์เชสเตอร์ ทาวน์โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม หลังไปไล่ตระคุรบตัวแฟนบอลตัวป่วนที่ใส่ชุดแบบหนังเรื่องโบรัต (โปรดดูภาพประกอบ) ในเกมกับฮาเวิร์นแอนด์วอเตอร์ลูวิลล์

วิคเคอร์กล่าวหลังโดนใบแดงสุดประหลาดนี้ว่า “ผมตกตะลึงและใบ้กินไปเลย ไอ้นั่นลงมาในสนามโดนไม่มีการ์ดสนามคนไหนเข้าไปใกล้ และผมคิดว่าผมได้ช่วยพวกการ์ดไว้นะ”

วิคเคอร์ยังเล่าด้วยว่านักเตะทั้งสองฝ่ายพยายามประท้วงผู้ตัดสินไม่ให้ไล่วิคเคอร์ออก รวมไปถึงประธานสโมสรของฝ่ายตรงข้ามเองก็สั่งวอล์คเอ้าท์นักเตะออกจากสนามด้วย แต่ข่าวไม่ได้บอกว่าเกมได้ดำเนินต่อไปจนจบหรือไม่
โบรัต ใครเคยดูหนังเรื่องนี้มั่ง

สั่งระงับ โครงการแปลงเพศ เอื้ออาทร เหตุ ผิดกฎหมาย


สั่งระงับ โครงการแปลงเพศ เอื้ออาทร เหตุ ผิดกฎหมาย
สืบเนื่องจากกรณีที่มีโครงการ “ผ่าตัดแปลงเพศฟรี พี่ช่วยน้อง” หรือ Sister’s hand ซึ่งปีนี้จะเป็นปีที่ 2 จนเกิดเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย ล่าสุด น.พ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงค์ ผู้อำนวยการสำนักสถานพยาบาลและการประกอบโรคศิลปะ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพเปิดเผยว่า ได้ดำเนินการระงับโครงการดังกล่าวแล้ว และระงับการโฆษณาแฝง ที่ใช้คำว่า ฟรี ในการโฆษณาสถานพยาบาลด้วย
โดยน.พ.ธเรศกล่าวว่า ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขฉบับที่ 11 เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการโฆษณาสถานพยาบาล นั้น ไม่อนุญาตให้โฆษณาการให้บริการ “ฟรี” โดยไม่เรียกเก็บค่าใช่จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น เว้นแต่จะได้รับความเห็นชอบจากผู้อนุญาต จึงถือว่าผิดตามประกาศกระทรวง ฉบับที่ 11 พร้อมกับเตรียมให้สถานพยาบาลชี้แจงว่า ดำเนินการตามข้อบังคับแพทยสภาว่าด้วยการรักษาจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรมหรือไม่
“การแปลงเพศจะต้องผ่านกระบวนการหลากหลายขั้นตอน หากพบว่าโครงการนี้ ดำเนินการตามระเบียบและขั้นตอนที่ตั้งไว้ก็ถือว่าทำได้ไม่ผิดกฎหมาย  แต่ สถานพยาบาลดังกล่าวรับว่าจะชะลอการดำเนินการ และพร้อมที่จะชี้แจงถึงการดำเนินการตามข้อบังคับแพทยสภาด้วย “น.พ. ธเรศ กล่าว
ด้านนาย นที ธีระโรจนพงษ์ ประธานกลุ่มเกย์การเมืองไทย และผู้ประสานงานองค์กรเครือข่ายอัตถลักษณ์ทางเพศ กล่าวว่า รู้สึกโล่งใจ และยินดีที่สังคมไทยสนใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ครั้งนี้ถือว่าภาครัฐมีความชัดเจนทำอะไรไม่ชักช้า

ดูมันทำ...รัฐไฟเขียว ข้าวแกงขายจานละ 40บาท

ข้าวแกง
ข้าวแกง


อาหารกระป๋อง เตรียมขึ้นราคา แบกรับต้นทุนไม่ไหว พาณิชย์ ขออย่าตื่นตระหนก

9 มี.ค. รายงานข่าวแจ้งว่า นางพรทิวา นาคาศัย รัฐมนตรีพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีสินค้าที่เตรียมขอปรับราคาเข้ามายังกระทรวงฯเพิ่มเติมอีก 1 รายการ คือกลุ่มเหล็ก จึงได้มอบหมายให้คณะอนุกรรมการพิจารณาราคาแนะนำเหล็กไปดำเนินการ โดยสินค้าปลากระป๋องนั้นยอมรับว่ามีต้นทุนขึ้นจากเหล็กที่ใช้ทำกระป๋อง (ทินเพลต) ราคาแพงขึ้น แต่ราคาที่ปรับเพิ่มขึ้นนั้นยังไม่เกินเพดานที่กรมการค้าภายในกำหนด และถ้ามีการยื่นขอปรับราคาเข้ามา ก็ต้องพิจารณาให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในทำการศึกษาโครงสร้างรายการสินค้าเป็นรายตัว เพื่อเตรียมพร้อมในการยื่นอนุมัติขอปรับราคา จะทำให้ทราบต้นทุนทั้งหมด ใช้ในการพิจารณา ขณะที่ขอยืนยันว่ามีสินค้าเพียง 10% เท่านั้นที่มีแนวโน้มราคาสูงขึ้น

ส่วนนางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบราคาอาหารปรุงสำเร็จในตลาดสด และห้างค้าปลีกทั่วไป เพื่อความร่วมมือจัดทำเมนูอาหารราคาไม่เกิน 25 บาท/จาน ไว้เป็นทางเลือก หลังราคาอาหารจานด่วนมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น จากราคาวัตถุดิบสูงขึ้น โดยกรมคงไม่สามารถไปตรึงราคาอาหารจานด่วนได้ เนื่องจากต้นทุนสินค้าเพิ่มสูงจริง เพราะการตรึงราคาสินค้าในภาวะต้นทุนวัตถุดิบแพง อาจมีผลต่อผลผลิตสินค้าออกตลาดลดลง ดังนั้นจึงต้องปล่อยให้กลไกตลาดทำงาน แต่จะป้องกันไม่ให้ฉวยโอกาสขายเกินราคา

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด ราคาอาหารจานด่วนในตลาดทั่วไปได้ปรับราคาเพิ่มขึ้นจากจานละ 30-35 บาทต่อจาน เป็น 40 บาทต่อจานแล้วจากต้นทุนวัตถุดิบไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปาล์ม ไข่ไก่ เนื้อหมู เนื้อไก่ กุ้ง ราคาปรับเพิ่มขึ้นหมดเมื่อเทียบกับช่วงปีที่ผ่านมา

สาวอวบอึ๋ม ชาวอิสราเอล อึ้ง เจองูเหลือม ฉกเต้านม


สาวอวบอึ๋ม ชาวอิสราเอล อึ้ง เจองูเหลือม ฉกเต้านม
 คลิปวิดิโอต่อไปนี้ เป็นคลิปฮอตที่ชาวอินเตอร์เน็ตต่างคลิกเข้าไปดู เนื่องจากปรากฎภาพหญิงสาวชาวอิสราเอลผมบลอนด์ในชุดเซ็กซี่ หยอกล้อกับงู ด้วยท่าทางเย้ายวน แต่ดูเหมือนว่าเจ้างูเหลือมจะไม่เล่นด้วย ฉกเข้าที่เต้านมด้านซ้ายไม่ยอมปล่อย สร้างความตกตะลึงจนให้เพื่อนชายรีบนำตัวมันออกไป


วันจันทร์ที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2554

ทึ่ง! ชายใจกล้า เล่นกับสิงโต ราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง เราน่าจะได้อ่านข่าวของเค้าอีก ตอนที่สิงโตตัวนี้ได้งับหัวเค้าไปแล้ว..+_+


ทึ่ง! ชายใจกล้า เล่นกับสิงโต ราวกับเป็นสัตว์เลี้ยง
 นาย เควิน ริชาร์ดสัน วัย 36 ปี ผู้โด่งดัง ในพรสวรรค์ของเขาที่สามารถเข้าถึงและสัมผัสกับจ้าวป่าอย่างสิงโตได้ ท่ามกลางความเสี่ยงที่อาจเกิดอันตราย โดยเขาบอกว่ามันคือของขวัญสำหรับชีวิต ที่สามารถอยู่ร่วมกับฝูงสิงโตได้ถึง 41 ตัวในป่าแอฟริกาใต้

ทั้งนี้ เขาบอกว่า สามารถเข้าใจในพฤติกรรมของมัน และรู้ว่าเมื่อไหร่มันจะตอบสนองต่อสิ่งต่างๆอย่างไร แต่เมื่อมันต้องการสืบพันธ์ หรือโมโห ก็ไม่ควรที่จะไปกอดคอเล่น  เพราะต้องดูเวลาที่เหมาะสมที่จะเล่นกับมันได้ อย่างเช่น เอามือแหย่เข้าไปในปาก โดยที่มันไม่กัด

แต่ใช่ว่าจะปลอดภัยซะทีเดียว ครั้งหนึ่งเขาเคยถูกมันกัดเข้าที่แผ่นหลัง จากนั้นก็จู่โจมจนเลือดอาบไปทั่วทั้งตัว โชคดีที่มันยังไม่พยายามกัดจนถึงแก่ชีวิต มันเพียงแต่ให้บทเรียน และคนอื่นๆไม่ควรเอาเป็นเยี่ยงอย่าง

ย้อนกลับไปเมื่อ 12 ปีที่แล้ว เควิน ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบำบัด ชายคนหนึ่งซื้อสวนสิงโต เขาจึงก็ได้ไปเล่นกับ ลูกสิงโตวัย 6 ขวบ จนกระทั่งพบพรสวรรค์ที่ไม่มีใครมี จนกระทั่งความสัมพันธ์ของเขากับสัตว์ชนิดนี้มีมากขึ้น บางคนบอกว่า เขาน่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญเกี่ยวกับเรื่องนี้ เขาสามารถนอนนอนเล่น ว่ายน้ำ กับพวกมัน ถึงแม้ว่าจะมีความเสี่ยงก็ตาม

“ผมเป็นมนุษย์ ที่มีความสัมพันธ์กับสิงโต ไม่ต่างอะไรกับคนอื่นๆที่มีความสัมพันธ์กับสัตว์เลี้ยงอย่าง สุนัข “เควิน กล่าว

แมนโคตร !ลูกผู้ชายตัวจริงต้องมีผู้หญิง"บริสุทธิ์ "ไว้บังกระสุนนะจะบอกไห้

เผยโฉม กองทัพสาวบริสุทธิ์ อารักขากัดดาฟี ผู้นำลิเบีย


เผยโฉม กองทัพสาวบริสุทธิ์ อารักขากัดดาฟี ผู้นำลิเบีย
สำนักข่าวต่างประเทศมีการรายงาน กองกำลัง “อะเมซอนเนี่ยน” ซึ่งเป็นทหารหญิง ที่มีหน้าที่คอยอารักขา พันเอกโมอัมมาร์ กัดดาฟี ผู้นำลิเบีย โดยทั้งหมดเป็นสาวบริสุทธิ์ ไม่ผ่านการมีเพศสัมพันธ์และการแต่งงานมาก่อน และจะต้องเข้ารับการฝึกฝนให้มีทักษะในการต่อสู้ได้เป็นอย่างดี เช่น ยิงปืน เป็นต้น
ทั้งนี้ ทหารหญิงทั้งหมด จะต้องผ่านการคัดเลือกจาก พันเอกกัดดาฟีโดยตรง และจะสังเกตเห็นว่าบางคนมีรูปร่างและใบหน้าที่สวยงาม อีกทั้งพวกเธอยังได้รับอนุญาติให้แต่งหน้า ทาลิปสติก และไว้ผมทรงตะวันตก หรือสวมรองเท้าส้นสูงได้ด้วย
เป็นที่น่าสังเกตว่า เหตุผลใด พันเอกกัดดาฟีจึงใช้กองทัพหญิงเพื่อมาอารักขา โดยหลายคนเชื่อว่าเป็นไปได้ว่าต้องการให้มือปืนอาหรับมีอุปสรรคในการกำจัดเขา ไม่กล้าฝ่าด่านทหารหญิง จะทำอะไรก็ลำบากกว่าทหารที่เป็นผู้ชาย แต่อีกด้านหนึ่งเชื่อว่า เขามีรสนิยมที่ต้องการใกล้ชิดผู้หญิงมากกว่า








วันอาทิตย์ที่ 6 มีนาคม พ.ศ. 2554

แอร์ฯบินไทย เตรียมยื่นฟ้องศาลแรงงาน เหตุห้ามแอร์ฯ อ้วนขึ้นเครื่อง

เพิ่มคำอธิบายภาพ

6มี.ค.54  รายงานข่าวแจ้งถึงความคืบหน้า กรณีแอร์โฮสเตส หรือกลุ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินของบริษัทการบินไทย ร้องขอความเป็นธรรมจากหลักเกณฑ์การปรับปรุงบุคลิกภาพของพนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน

โดยใช้ค่าดัชนีมวลกายและรอบเอว หากลดไม่ได้ตามเกณฑ์ภายในเวลากำหนดให้ปฏิบัติงานบินในประเทศหรือเส้นทางบินไปกลับวันเดียว และปฏิบัติงานภาคพื้นดินแทนนั้น
ล่าสุดกลุ่มพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินที่ได้รับผลกระทบจะไป เตรียมจะเดินทางไปยื่นฟ้องศาลแรงงานในเช้าวันพรุ่งนี้ เพื่อให้ศาลวินิจฉัยว่า คำสั่งดังกล่าวผิดหรือขัดต่อสภาพการจ้างหรือไม่
เนื่องจากตามสัญญาและการปฏิบัติงานไม่ได้ระบุเรื่องค่าดัชนีมวลกายแต่ฝ่ายบริหารแก้ไขเพิ่มเติมภายหลัง ขณะเดียวกันในวันอังคารที่ 8 มีนาคมนี้ ก็จะเดินทางไปยื่นหนังสือร้องเรียนกับคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เนื่องจากเห็นว่ามาตราการดังกล่าวเลือกปฏิบัติระหว่างพนักงานอ้วนกับผอม

หลุมฝังศพแบบเท่ๆ